Ramnagar แต่เดิมเป็นที่อยู่ของกษัตริย์แห่งเมืองพาราณสี ซึ่งชื่อเดิมเรียกกันว่า แคว้นกาสี ในปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์เก็บข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของพระมหากษัตริย์ ในยุคศตวรรษที่ 18
ลักษณะของสถาปัตยกรรม มีระเบียงแกะสลัก และมีศาลาที่สวยงามสามารถมองเห็นแม่น้ำคงคงได้อย่างชัดเจน
ด้านในพิพิธภัณฑ์ เก็บรวมรวมของใช้ต่างๆไม่ว่าจะเป็น เครื่องแต่งกาย รถยนต์แบบยุโรป รถลาก ที่บ้างก็ทำจากเครื่องเงิน เครื่องทองเหลือง และงาช้าง เสลี่ยงก็มีหลายรูปแบบ คล้ายทั้งของจีน และของหลายๆชาติ นาฬิกาโบราณที่ยังสามารถบอกเวลาได้ ดูแล้วตื่นตาตื่นใจมาก
และที่สำคัญก็คืออาวุธหลายรูปแบบ ทั้งปืนสารพัดรูปแบบ ตั้งแต่เล็กแค่ครึ่งฝ่ามือ ไปจนถึงปืนใหญ่ เกือบร้อยกระบอก และปืนบางประเภทก็มีมีดในตัวด้วย นอกจากนั้นก็มีหอกยาวประมาณสามฟุตอีกมากมาย มีดลักษณะต่างๆทั้งใหญ่และเล็ก บางเล่มเหมือนมีดเพชรฆาต บางเล่มก็โค้งยาวจนน่ากลัว มีดเยอะมาก ตามขื่อก็ประดับไปด้วยมีดเช่นกัน และก็มีสนับมือที่ลักษณะภายนอกเหมือนดาบแต่พอบีบแล้วคลายออกเหมือนกรรไกรแต่มีสามง่ามดูน่ากลัว คันธนูและลูกธนูรูปแบบแปลกๆ โล่ห์โลหะก็มี ที่ดักสิงโตก็มี ถ้าคนที่มีความรู้เรื่องอาวุธต่างๆได้เข้ามาดูก็คงรู้สึกประทับใจอยู่ไม่น้อยเลย
อัตราค่าเข้าชม ชาวต่างชาติคนละ 150 รูปี ชาวอินเดียคนละ 15 รูปี
การถ่ายภาพถ่ายได้แต่ด้านนอก ด้านในห้าม เจ้าหน้าที่อยู้เฝ้าเกือบทุกจุด คอยดูความเรียบร้อย
แขกก็มารอซื้อตั๋วเหมือนกัน
ขอถ่ายคู่กับตำรวจอินเดีย
(โหอยู่อินเดียแดดแรงจากที่ดำอยู่แล้วหนักเข้าไปอีก เศร้าจัง)
ร้านค้าด้านหน้า
ร้านขายน้ำ
Ramnagar อยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยพาราณสี (B.H.U.) ประมาณ 3 กิโลเมตร แต่อยู่คนละฝั่งคงคา
ทางข้ามแม่น้ำคงคาแบบชั่วคราว
สะพานตอนนี้กำลังสร้าง ถ้าสะพานเสร็จก็น่าจะไป-มาสะดวกขึ้นอีกเยอะ
ขอบคุณภาพประกอบบางส่วน
http://www.google.co.th/